Podchaser Logo
Home
Ep.9 ประสบการณ์สอบ Facebook Blueprint Buying Certification ที่บ้าน

Ep.9 ประสบการณ์สอบ Facebook Blueprint Buying Certification ที่บ้าน

Released Thursday, 9th July 2020
Good episode? Give it some love!
Ep.9 ประสบการณ์สอบ Facebook Blueprint Buying Certification ที่บ้าน

Ep.9 ประสบการณ์สอบ Facebook Blueprint Buying Certification ที่บ้าน

Ep.9 ประสบการณ์สอบ Facebook Blueprint Buying Certification ที่บ้าน

Ep.9 ประสบการณ์สอบ Facebook Blueprint Buying Certification ที่บ้าน

Thursday, 9th July 2020
Good episode? Give it some love!
Rate Episode
การสอบ Facebook Blueprint Buying Certification คือคนที่จับเครื่องมือเพื่อซื้อมีเดียจริงๆ เป็นการสอบที่บ้านด้วย จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์การสอบเมื่อเช้านี้ โดยผมชวนน้องอุ้มมาร่วมพูดคุยด้วย

บรรยากาศในการสอบ Facebook Blueprint ที่บ้านเป็นอย่างไร แตกต่างจากการสอบที่ศูนย์หรือไม่ ?

  • สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนสอบที่บ้าน คือการมองหาห้องดีๆ ข้อกำหนดที่เขากำหนดมาคือ ห้องนั้นต้องไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้อง ไม่มีจอทีวี หน้าต่างที่ทำให้คนอื่นเล็ดลอดเข้ามาดูได้ ไม่มีชั้นวางเอกสารใกล้ๆ โต๊ะ ใต้โต๊ะและบนโต๊ะห้ามมีเอกสารอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ได้ไปสอบห้องประชุมหรือที่โล่งๆ จะค่อนข้างยุ่งยากกว่าการไปสอบที่ศูนย์มาก จากนั้นเขาจะมีการเทสเครื่องและอินเตอร์เนตว่าพร้อมใช้หรือไม่ เพราะมีการระบุไว้ว่า หากเครื่องเราไม่สามารถใช้งานได้ มีข้อขัดข้องใดๆ เกิดขึ้นระหว่างการสอบ เป็นความผิดของเรา เขาไม่รับผิดชอบ ผมแนะนำว่าให้ทุกคนรัน System Test ดูก่อนว่าเครื่องใช้ได้ปกติหรือไม่ สถานที่ใช้ในการสอบเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่อัพเดท Mac OS ตัวใหม่จะไม่สามารถใช้สอบได้ หลักๆ เตรียมห้อง เครื่องคอม และอินเตอร์เนต
  • วันสอบจะต้องเตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ เม้าส์ อนุญาตได้แค่เม้าส์ไร้สาย ห้ามใช้กระดาษจดโน้ตหรือเครื่องคิดเลข อนุญาตให้เอามือถือเข้าห้องได้ แต่ไม่อนุญาตให้วางใกล้ๆ ตอนสอบ ในห้องที่เราสอบต้องมีแสงในระดับที่พอเหมาะที่ทำให้คนตรวจข้อสอบเห็นหน้าเราตลอด เพราะคนตรวจเขาให้เราเปิดเว็บแคมตลอดระยะเวลาการสอบ หน้าเราต้องอยู่ในซีนตลอด ถ้าหน้าออกจากซีนเมื่อไหร่ ถือว่าฟาวล์ทันที อะไรที่อยู่ในห้อง ต้องตอบให้ได้ทันทีว่าคืออะไร เพราะเขาอาจสงสัยว่าเป็นกล้อง และบัตรประจำตัวต้องมี
  • ขั้นตอนในการสอบ จะมีอยู่ในอีเมล์ ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากระดับหนึ่ง ดังนั้น 1 วันก่อนสอบควรเตรียมตัวก่อนว่าเข้าอย่างไร เพราะไม่อย่างนั้นจะงง หรือถ้าไม่มีเวลาต้องมาเตรียมตัวอย่างน้อยก่อนเวลาสอบ 1 ชั่วโมง เพราะทางเข้ามีความซับซ้อน เมื่อเข้าในระบบการสอบ แล้วกด Launch Exam จะยังไม่สามารถเข้าไปสอบได้ทันที เขาจะให้เราโหลดโปรแกรมของ Pearson เพื่อมาครอบเครื่องเราให้กลายเป็นเครื่องที่ใช้ทำการสอบ ถ้า Windows ถ้าติดตั้งครั้งหนึ่งแล้วจะใช้ได้ตลอด แต่ถ้า Mac ต้องติดตั้งใหม่ทุกครั้งที่สอบ จากนั้นให้เราก็อปไอดีของเราเข้าไปในโปรแกรม เราจึงจะเข้าสอบได้ ก่อนจะล็อคหน้าจอ เขาจะขอให้เราถ่ายรูปหัวของเราไว้ ดังนั้นเว็บแคมต้องชัด และถ่ายรูปบัตรประจำตัวของเราผ่านเว็บแคม เขาจะให้เราตรวจสอบไมค์ ลำโพง เพราะเราต้องคุยกับผู้ตรวจข้อสอบ จากนั้นจะมีการให้ติ๊กยืนยันเกี่ยวกับสถานที่ว่าแสง โต๊ะ อื่นๆ เคลียร์ใช่หรือไม่ จบขั้นตอนแล้วเราทำได้แค่นั่งรอ เราต้องนั่งรอพร็อกเตอร์มาคุยกับเราก่อนเริ่มสอบ หากใครกังวลในเรื่องการสอบว่าอยากให้มีคนช่วยซัพพอร์ต ให้สอบในช่วงเวลาที่อินเดียเปิดทำการ ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ และช่วงเวลาทำงานของเขา ให้เราสามารถเข้าไปแชทและแก้ปัญหาต่างๆ ได้ จริงๆ ในอีเมล์แจ้งไว้ว่าถ้าไม่มีใครมาเป็นพร็อกเตอร์ให้เราภายใน 10 นาทีให้แจ้ง Customer Support ได้เลย
  • เมื่อพร็อกเตอร์เข้ามา จะมีการเปิด Live Chat กับเรา ส่วนใหญ่จะเป็นคนอินเดีย เขาจะให้เราทำตามขั้นตอนต่างๆ

มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

เขาจะให้เราพิมพ์ชื่อภาษาอังกฤษ ชื่อนามสกุลเต็ม และเบอร์โทรศัพท์ของเรา ระบุ +66 ตาม International Code เพื่อที่ว่ามีปัญหาระหว่างสอบ เขาจะติดต่อเราได้ทันที จากนั้นเขาจะคุยกับเราผ่านทางลำโพงและไมค์ เพื่อขอให้เราพาเขาตรวจห้อง ให้ทำตามคำสั่งเขา โดยเขาจะให้เรายกคอมเรากวาดให้ดูทั่วห้อง โชว์บนโต๊ะที่ใช้ในการสอบ ตรวจรอบห้องเสร็จเขาจะให้เรากวาดให้ดูบนเพดานด้วย ส่วนมือถือให้วางห่างตัวเลย อย่างผมวางคว่ำไว้บนเตียงนอนให้เขาเห็นเลย ก่อนเริ่มการสอบ เราต้องปิดโปรแกรมทั้งหมดทิ้ง โดยเฉพาะเว็บบราวเซอร์ ถ้าเราไม่ปิด ระบบจะไม่เริ่ม เมื่อเขาส่งข้อสอบมาแล้วมันจะ Start ไม่ได้ ผมแนะนำว่าปิดโปรแกรมให้หมดเลย เมื่อเข้าได้แล้วจะเข้าหน้า ขอต้อนรับเข้าสู่การสอบ Facebook Blueprint Buying Certification เวลาสอบ 105 นาที ข้อสอบมีทั้งหมด 60 ข้อ

ระหว่างการสอบ คนคุมสอบกับเราได้มีการพูดคุยอะไรกันหรือไม่ ?

เขาไม่น่าใช้คนนั่งจ้องเรา แต่ใช้ Machine Learning ช่วย ที่เขาถ่ายหน้าเราไปตอนแรก เพื่อจะให้ Machine Learning ช่วยดูว่าหน้าเราออกไปจากพื้นที่หรือเปล่า จริงๆ เราเล่นหน้าอะไรกับจอก็ได้ แต่แค่หัวอย่าหลุดเฟรมก็พอ

ภาพรวมการสอบ Buying Certification ?

จากเดิมที่ใช้เวลาในการสอบ 75 นาที ข้อสอบเฉลี่ยประมาณ 52 – 60 ข้อ จะเปลี่ยนเป็น 105 นาที ข้อสอบ 60 ข้อ คะแนนเต็ม 1,000 คะแนน คะแนนที่ผ่านคือ 700 คะแนน ที่ต้องปรับมาเป็นแบบนี้ เพราะเราไม่ต้องสอบตัวพื้นฐานก่อนมาสอบ Buying ต่อไปแล้ว จ่ายตังค์ครั้งเดียว 75 เหรียญ ถ้าผ่านก็ได้ Certification เลย ค่อนข้างโหดและวัดได้ว่าใครมีสกิลด้าน Facebook จริงๆ

เนื้อหาในการสอบมีอะไรบ้าง ?

Buying ค่อนข้างมีความแตกต่างจาก Buying คือ Planning จะเน้นเนื้อหาเรื่องการแพลน Budget การคำนวณ Budget เยอะ แต่หายไปในส่วนของ Buying แต่ส่วนที่มาแทนโหดมาก

  • เรื่องที่ 1 ถามเรื่อง Advanced Ads Implementation เยอะมาก เช่น การติด Pixel รวมถึงเรื่อง Mobile App การติด Tagging ในเว็บไซต์และแอพฯ แล้วคนไทยไม่ค่อยได้ทำแคมเปญยิงเข้า Mobile App เท่าไหร่ ต้องไปอ่านทฤษฎี ต้องศึกษาเรื่อง Facebook Marketing Partner ด้วยว่ามีความสามารถอะไรที่สามารถช่วยเราได้ เรื่อง Deep Linking เรื่องของแอพฯ เกิน 10 ข้อ มีเรื่อง Product Catalog นิดหน่อย
  • เรื่องที่ 2 กลุ่ม Ad Campaign Setting หรือ Structure คือการวางโครงสร้างของแคมเปญอย่างไรให้ถูกต้อง จะแนะนำลูกค้าอย่างไร ต้องนึกในหัวได้จึงจะตอบได้
  • เรื่องที่ 3 วิธีการแก้ปัญหาที่ควรใช้เมื่ออยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ เช่น ติด Pixel Tag บนเว็บไซต์ไม่ได้ แต่อยากได้ยอดขาย เราต้องนึก Option ที่รองลงมาคืออะไร อันนี้ก็คือโยน Traffic เข้าไป
  • เรื่องที่ 4 การเซตแคมเปญกลุ่มแบรนด์ เราควรเซตแคมเปญที่เป็นวัตถุประสงค์อะไร ให้ยึดเลยว่าโจทย์ให้ยึดวัตถุประสงค์อะไร ให้ดูว่า Client want อะไร ตอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการเป็นหลัก
  • เรื่องที่ 5 Video Ads เช่น ถามว่าถ้ามีคนดูวิดีโอ 60 วิ ต้องเซตยังไง 15 วิ ต้องเซตยังไง ตามวัตถุประสงค์ อาจมีการคำนวณด้วยนิดหน่อย การทำ Re-marketing ที่เป็นวิดีโอ คือ 2 steps funnel campaign จะเป็นเรื่อง Custom Audience ต้องเคยเซตถึงจะเข้าใจ
  • เรื่องที่ 6 การโยก Budget จาก Performance ที่ให้มาก็มีเยอะ Performance เป็นแบบนี้ควรจะปรับอย่างไร

Optimize Campaign ที่มีปัญหามีอะไรบ้าง ?

  1. ปัญหาแคมเปญรันแล้วใช้ Budget ไม่หมด หรือ Under Delivery จะแก้ปัญหาอย่างไร อันนี้ต้องกลับไปที่โครงสร้างของ Facebook Ads จะมี Key Factor ไม่กี่อย่าง
  2. แคมเปญที่รันบนเว็บไซต์ เปิดไปสักพัก ปรากฏว่าแคมเปญไม่รันเลย จะเกี่ยวกับว่าแคมเปญไม่มี Signal ในการทำ Learning มากพอ แคมเปญใน Facebook จะต้องมี Signal 25 – 50 Conversion เพื่อให้มันเรียนรู้ ซึ่งถ้ามีไม่พอ ระบบจะไม่ผ่าน Learning Stage ก็ต้องตอบให้ถูกว่ากรณีนี้ต้องปรับอย่างไร ส่วนใหญ่จะต้องปรับโดย Optimize ผ่าน Goal ที่ง่ายขึ้น 
  3. Placement Optimization เช่น ยิง Ads ผ่าน Facebook Instagram ดีไหม ถ้ายิงไปแล้วไม่ดี ต้องทำอย่างไร ให้เลือกข้อที่ Auto Placement ยิ่งดี 
  4. เรื่อง Bidding จะลิงค์กับคนที่เตรียมสอบ Planning จะเซตค่า Bidding อย่างไรให้แคมเปญออกมาโอเคขึ้น ของ Buying จะยากกว่า Planning ตรงที่จะเริ่มมีตัวเลขมาเกี่ยวข้องชัดเจน ต้องเข้าใจว่าการใช้ Bidding ช่วยจะเกิดอะไรขึ้น
  • หัวข้อหนึ่งที่ยาก มี Report มาให้แบบนี้เราจะวิเคราะห์แคมเปญนี้อย่างไร ไปจนถึงแคมเปญที่เป็น Conversion ผมขอแนะนำว่าถ้าเจอโจทย์ตัวเลข อย่าเพิ่งอ่านตัวเลข ให้ไปอ่านก่อนว่าวัตถุประสงค์ต้องการอะไร ซึ่งบางครั้งอาจจะดูตัวเลขแค่ 2 – 3 ตัว หรือดูแค่ตัวเดียวยังได้เลยเพื่อตอบบางคำถาม
  • อีกเรื่อง Creative Recommendation ใน Planning Certificate ถามเยอะแต่ถามไม่ลึก แต่ใน Buying Certificate ถามไม่เยอะ แต่ถามลึก เขาจะบอกว่า Asset ที่แบรนด์มีมาให้มีอะไรบ้าง เช่น วิดีโอไซส์นี้ รูปไซส์นี้ เราต้องจำได้ว่า Placement ของ Facebook ลงอะไรได้บ้าง ดังนั้นเราต้องเข้าใจการทำ Testing ทุกรูปแบบ จึงจะสอบ Buying Certificate แล้วคะแนนดี เรื่อง Creative ยังมีการรัน Catalog Sale อีก ในภาพรวม Buying Certificate ยากกว่า เพราะ Planning Certificate จะเป็นเหมือนหลักการ
  • Planning Certificate จะเน้นการอ่านค่าวัดผล ว่าจะเลือกใช้เครื่องมืออะไรมาวัด แต่ Buying Certificate จะให้โจทย์แล้วให้คิดวิธีเทสมา เซตยังไง ต้องรู้ข้อจำกัดด้วย ถ้าใครจะสอบทั้ง 2 Certificate แนะนำให้ทวนเรื่อง Measurement ให้แน่น
  • เรื่องง่ายๆ คือถ้ามีการยิง Ads ที่ใช้ในการเก็บรายชื่อลูกค้า แล้วลูกค้าไม่ค่อยให้ชื่อเลย จะปรับอย่างไร เราแค่ต้องตอบไปว่าลดฟิลด์ลง เพิ่ม Audience ถ้าเข้าใจก็ตอบได้ และมีการถามว่าถ้ามี Creative มาหลายตัว ถ้าต้องการให้ลูกค้าดูเป็นลำดับ 1 2 3 4 ต้องทำอย่างไร อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องไปทวนคือ Ads Sequencing และควรจะต้องกำหนดว่าคนหนึ่งควรจะเห็นได้ไม่เกินกี่ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างน้อยต้อง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ระบบถึงจะอนุญาตให้กำหนด Ads Sequencing ได้ จะมีศัพท์คำหนึ่งที่หลายคนอาจจะงงคือ Campaign Flight คือความยาวของแคมเปญ รวมถึงเรื่อง Business Manager ใน Planning ไม่มี แต่ Buying มี เรื่องสุดท้ายถามเรื่องความสามารถในการดู Ads Reporting เราจะต้องใช้เครื่องมืออะไรในการดู จะทำได้ก็ต่อเมื่อต้องเข้าใจความสามารถของเครื่องมือ Ads Reporting

โดยสรุปการสอบ Planning Certificate กับ Buying Certificate มีหลายเรื่องที่คล้ายๆ กัน แต่ความต่างหลักอยู่ที่มุมมองในการถาม Planning Certificate จะไม่ลงรายละเอียดเท่าไหร่ แค่แนะนำลูกค้าได้ เพราะกลับกลุ่มที่เป็น Client Service หรือ Media Planner แต่ Buying Certificate จะลงรายละเอียดว่าเซตยังไง เลือกเครื่องมืออะไร โดยเฉพาะเรื่อง Measurement หวังว่าเนื้อหานี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เตรียมตัวสอบ Buying Certificate หรืออาจจะเป็นแนวทางการวาง Learning Plan ให้กับหลายๆ คนว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Facebook

สามารถฟังพอดแคสต์ Marketing I Can
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลยimage YoutubeSpotifyPodcast

FOLLOW US

FacebookInstagramYoutubeLine
Show More
Rate

Join Podchaser to...

  • Rate podcasts and episodes
  • Follow podcasts and creators
  • Create podcast and episode lists
  • & much more

Episode Tags

Do you host or manage this podcast?
Claim and edit this page to your liking.
,

Unlock more with Podchaser Pro

  • Audience Insights
  • Contact Information
  • Demographics
  • Charts
  • Sponsor History
  • and More!
Pro Features